Say My Name 32




สิ้นคำพูดริมฝีปากของเด็กหนุ่มก็ถูกจู่โจมทันที เป็นครั้งแรกที่จองกุกรู้สึกไปไม่เป็นกับการจูบที่ดุดันแบบนี้ทั้งที่ปกติแล้วเขาไม่ยอมอีกคนด้วยซ้ำ แต่รสขมปร่าของเหล้าฝรั่งดีกรีแรงเมื่อเรียวลิ้นสัมผัสกันรวมกับกลิ่นที่คละคลุ้งในโพรงปากเริ่มทำให้เขารู้สึกเวียนหัวราวกับเป็นคนดื่มเข้าไปเอง ทั้งที่จริงๆแล้วเพียงแค่ถูกมอมเมาโดยคนโตกว่าเท่านั้น


ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ถูกหลอกล่อจนมาถึงเตียงกว้าง เมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับฟูกข้อมือทั้งสองก็ถูกกดไว้ด้วยมือของร่างสูงทันที แรงกัดไม่เบานักที่ริมฝีปากล่างไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บเท่าไรแถมยังเปิดโอกาสให้ได้พักหายใจบ้างก่อนจะถูกประกบจูบลงมาอีกครั้งอย่างจาบจ้วง จองกุกหอบหายใจเฮือกเมื่อซอกจินผละใบหน้าออก จมูกโด่งสูดกลิ่นกายตรงซอกคอขาวอย่างกระหายก่อนคนเด็กจะหลุดเสียงร้องเบาๆเพราะลำคอถูกงับด้วยฟันคมอย่างหมั่นเขี้ยว


“ยูจองให้ฉีดน้ำหอมเหรอ?” ซอกจินถาม เด็กหนุ่มพยักหน้าเป็นคำตอบ


“ให้ตายเถอะ... นายจะทำให้ฉันคลั่งไปถึงไหน”


“อื้อ.. ปล่อยก่อนครับ” จองกุกท้วงเมื่อเริ่มรู้สึกเจ็บเพราะแรงกดที่ข้อมือก่อนจะเห็นสายตาดุดันที่มองมา


“ปล่อย... นะครับ..” น้ำเสียงอ้อนๆพูดกับอีกคน ซอกจินถึงได้ยอมปล่อยข้อมือเล็กให้เป็นอิสระก่อนจองกุกจะยกมันขึ้นมากอดคอเขาเอาไว้ สงครามจูบเริ่มขึ้นอีกครั้ง เมื่อไร้ซึ่งแรงบังคับจากมือใหญ่และเคลื่อนไหวได้ตามต้องการร่างกายที่เคยผ่อนคลายก็รู้สึกถึงความร้อนที่พุ่งสูงขึ้นจนต้องถอดเสื้อสูทตัวนอกเพื่อระบายมันออกไป






และเมื่อกระต่ายน้อยเริ่มตายใจ นายพรานก็จับมันขังเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย






“อ๊ะ!!” จองกุกร้องเมื่อสองมือที่เพิ่งถูกปล่อยเมื่อครู่ถูกดึงออกจากรอบคอของซอกจินแล้วรวบขึ้นเหนือหัวตนเอง โบหูกระต่ายที่เคยอยู่ใต้ปกเสื้อถูกแกะออกมาโดยไม่รู้ตัวและใช้มัดข้อมือทั้งสองข้างเอาไว้ด้วยกันก่อนกดไว้ด้วยมือข้างเดียวของคนด้านบน


“แค่ตอนที่เห็นนายสบตากับมันฉันก็อยู่ไม่สุขแล้ว” ซอกจินสบตากับเด็กกระต่ายที่กำลังทำสีหน้าหวาดหวั่นพลางใช้มืออีกข้างปลดเนคไทที่คอของตัวเอง


“อยากให้นายรู้ไว้ว่าตอนที่ฉันกังวลสุดๆเพราะไม่รู้ว่าพวกนายคุยอะไรกันมันเป็นยังไง”


“คุณซอกจิน!


เนคไทสีเทาปักลายด้วยไหมสีเงินถูกวางลงบนเปลือกตาของจองกุกแล้วมัดไว้ด้านหลังศีรษะ ก่อนร่างเล็กจะถูกจับพลิกให้นอนคว่ำเพื่อที่ปมของมันจะได้ไม่ทำให้เจ็บเพราะนอนทับ






จองกุกเชื่อแล้วว่ามันรู้สึกวิตกไปหมดเมื่อถูกพันธนาการแถมยังมองไม่เห็นอะไรแบบนี้






เขาไม่รู้เลยว่าซอกจินจะทำอะไรต่อไป






กางเกงสีอ่อนถูกถอดออกตามด้วยชั้นในแล้วโยนทิ้งอย่างไม่ใยดี พอผิวกายไร้สิ่งปกปิดจองกุกก็รู้สึกตื่นตัวยิ่งกว่าเดิมราวกับสัตว์เล็กที่อยู่ในอันตราย และเมื่อเรียวนิ้วลากผ่านต้นขาเนียนขึ้นไปถึงบั้นท้ายเขาก็ต้องสั่นไปทั้งตัว สะโพกอิ่มเผลอยกขึ้นอัตโนมัติเมื่อถูกเร้าด้วยนิ้วยาวบริเวณร่องเนื้อด้านหลัง


“ฮะ.. อือ...” จองกุกหลุดครางเมื่อซอกจินกดปลายนิ้วเข้าไปในช่องทางอ่อนนุ่ม มือใหญ่ประคองสะโพกอิ่มแล้วดึงเข้าหาตัวพร้อมกับงอข้อนิ้วยังอยู่ในร่างกายอีกคนขณะออกแรง จนเจ้าของร่างต้องใช้เข่าทั้งสองยันกับพื้นเตียงเพื่อประคองตัวเองให้อยู่


ซอกจินขยับไปซ้อนด้านหลังคนที่ตอนนี้เหลือเพียงเสื้อเชิ้ตตัวเดียวแล้วดึงให้ร่างบางยืดตัวขึ้นมาก่อนกระซิบชิดใบหู


“แล้วพอเห็นนายกอดหมอนั่นแบบนั้น ฉันยิ่งแทบเป็นบ้าเลย”


“อ๊า!” เสียงพร่าหวีดร้องเพราะนิ้วที่ใส่เข้ามาเพิ่มโดยไม่ทันตั้งตัวเริ่มขยับเข้าออกรุกล้ำร่างกายโดยไม่มีสิ่งหล่อลื่นทำให้แทบทรงตัวไม่อยู่ จองกุกรู้สึกราวกับถูกลงโทษ ทั้งความเจ็บและความกระสันโถมใส่ช่องทางด้านหลังอย่างหนักหน่วงจนต้องเชิดหน้าหอบหายใจ






ความรู้สึกของนิ้วกับส่วนนั้นช่างต่างกันนัก แต่อย่างน้อยสัมผัสของท่อนเนื้อก็ทำให้เขามีความสุขมากกว่านิ้วมือ






“พ.. พอเถอะครับ” จองกุกพูดเสียงกระท่อนกระแท่นก่อนจะกัดปากเมื่อต้องรับมือกับความเสียวตรงช่วงล่าง แต่อีกคนก็ใช่ว่าจะฟังเขาแถมยังรังแกกันต่ออย่างไม่อ่อนโยน


“คุณซอกจิน.. ฮะ หยุด”


“เจ็บเหรอ?” น้ำเสียงที่อีกคนถามไม่ได้ดูเป็นห่วงเป็นใยเหมือนครั้งแรกของพวกเขา นิ้วยาวยังคงขยับและเฉียดกับจุดอ่อนไหวไปเพียงนิด จองกุกส่ายหน้าแล้วหันไปพูดกับคนโตกว่าแม้ว่าจะไม่เห็นหน้ากันก็ตาม


“ข.. เข้ามาเถอะครับ” เด็กหนุ่มเสียงสั่น


“ไม่เอานิ้วแล้ว”






ซอกจินรู้แล้วว่าจองกุกยังสามารถทำให้เขาบ้าได้อีก






จองกุกแทบจะทรุดลงไปนอนกับเตียงเมื่อความวูบโหวงเข้าแทนที่ทันทีที่เรียวนิ้วถูกถอนออกจากช่องทางอุ่น แต่เสียงรูดซิปกางเกงก็ทำให้เขารู้ว่ามันเพิ่งจะเริ่มต้น


ก็เขาเป็นคนร้องขอมันอีกแล้วน่ะสิ


ร่างเล็กถูกดึงขึ้นมาให้อยู่ในท่าคุกเข่าอีกครั้งโดยที่แผ่นหลังพิงกับอกของซอกจิน รู้สึกได้ถึงส่วนกลางลำตัวของอีกคนที่สัมผัสกับบั้นท้ายของตนเองเมื่อร่างกายแนบชิดกัน ร่างสูงใช้มือข้างหนึ่งเชยคางของเขาให้หันมาแล้วกระซิบชิดใบหู


“อย่ากอดกับใครแบบนั้นอีกรู้มั้ย?”


“..ฮึก!” จองกุกกัดปากแน่นเมื่อท่อนเนื้อแกร่งแทรกเข้ามาในร่างกาย ความเจ็บแล่นไปทั่งสันหลังจนประคองตัวแทบไม่ไหวแต่ก็ถูกซอกจินประคองเอาไว้ไม่ให้ล้มลงไป


เรียกได้ว่าบังคับให้เขาต้องฝืนและอดทนกับความเจ็บนั้นก็ว่าได้


“ฉันไม่ชอบให้คู่นอนรู้สึกว่าตัวเองเสียเปรียบในท่าคลานเข่า” ซอกจินพูดก่อนกดจูบเบาๆหลังใบหูที่กลิ่นน้ำหอมเริ่มเด่นชัดขึ้นเพราะอุณหภูมิของร่างกาย


“เพราะถ้าฉันรู้สึกว่าได้เปรียบฉันอาจจะเผลอทำให้เจ็บก็ได้”


“อ่ะ.. อ๊า!” สะโพกแกร่งเริ่มขยับเมื่อพูดจบ ร่างเล็กเชิดหน้าขึ้น ปล่อยเสียงครางออกมาอย่างไม่อายเพราะท่วงท่าที่ให้ความรู้สึกแปลกใหม่และไม่เคยสัมผัส


ทั้งท่าทำรักและกำลังของซอกจินทำให้จองกุกไร้เรี่ยวแรงจะขัดขืน


ซอกจินเข้ามาได้ลึกกว่าเดิมจากด้านหลัง แขนข้างหนึ่งสอดเข้าไปใต้เสื้อเชิ้ตสีขาวที่ยับยู่ยี่พลางลูบไล้ผิวเนียนตั้งแต่หน้าท้องขึ้นไปถึงแผ่นอกเรียบ เสียงกระเส่าครางผิดจังหวะเล็กน้อยเมื่อนิ้วมือปัดป่ายผ่านยอดอก และสองมือที่ยังถูกมัดอยู่ก็ไม่สามารถจับตรงไหนเพื่อค้ำยันตัวเองได้ เซ็กส์ครั้งนี้จึงเป็นครั้งที่ทำให้จองกุกเสียพลังงานมากที่สุดเท่าที่มันเคยเกิดขึ้น


แต่แล้วมืออีกข้างที่ว่างจากการรังแกร่างบางก็ประสานเข้ากับอุ้งมือทั้งสองพร้อมประคองกอดอย่างทะนุถนอมต่างจากสัมผัสเบื้องล่าง


จองกุกกำมือข้างนั้นของซอกจินแน่นเพื่อระบายอารมณ์ขณะที่สะโพกแกร่งส่งแรงกระแทกกระทั้นหนักหน่วงขึ้นจนขาเรียวสั่นและประคองตัวเองไว้ไม่อยู่ ซอกจินยอมปล่อยให้เขาหมอบลงกับเตียงจนได้แต่ก็ยังโน้มตัวลงมาด้วยโดยไม่ปล่อยให้เกิดระยะห่างระหว่างกายทั้งสองแม้แต่น้อย


“ฮึก! ผ.. ผม อือ...” ถึงแม้จะอยู่ในท่าโก้งโค้งแต่ก็ยังอดเชิดหน้าแล้วปล่อยเสียงร้องออกมาไม่ได้ ใช่ว่าเมื่อได้ผ่อนแรงไปยังแขนทั้งสองข้างแล้วซอกจินจะปล่อยให้เขาได้พักบ้างเสียเมื่อไร


อีกคนผ่อนแรงตามเขาที่ไหนล่ะ?


“คุณ!.. อ๊า!!


“อย่าทำให้ฉันหงุดหงิดอีกจองกุก” เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังรุนแรงขึ้นเรื่อยๆจนด้านหลังต้นขาขาวขึ้นรอยแดงจากการกระทบกระแทกติดต่อกันหลายต่อหลายครั้ง


“อื้อ!” จองกุกสะดุ้งเฮือกเมื่อมือใหญ่จับปลายคางของเขาให้หันไปรับจูบก่อนอีกคนจะพูดชิดริมฝีปาก


“อย่าให้ฉันรู้สึกหวงจนอยากแสดงความเป็นเจ้าของนายแบบนี้”


“ผม ม..!! อะ อ๊า!” เสียงใสหวีดร้องอีกครั้งเมื่อสะโพกสอบขยับถี่รัวจนตัวเขากระตุกสั่นและถึงจุดสุดยอดโดยไม่ทันได้ถูกแตะต้องเลยด้วยซ้ำ ก่อนความอุ่นร้อนจะเอ่อเต็มช่องทางที่บีบรัดร่างกายของซอกจินเมื่อเขาปลดปล่อยออกมาตามอีกคน






แต่คืนนี้ไม่ได้จบง่ายๆอย่างที่จองกุกคิดเอาไว้หรอก






“นายจะเหนื่อยก็ได้” ร่างสูงถอนกายออกมาแล้วพลิกตัวเด็กหนุ่มให้นอนหงาย แกะเนคไทที่ปิดบังใบหน้าอีกคนออกก่อนจะเห็นดวงตาหวานฉ่ำน้ำมองมาอย่างเหนื่อยอ่อนแต่เร้าอารมณ์เป็นบ้า


“แต่ฉันยังไม่พอใจหรอกนะ”












กลับไปอ่านต่อและคอมเม้นท์ที่ >> https://writer.dek-d.com/dek-d/writer/viewlongc.php?id=1662540&chapter=34

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

Say My Name 22

Say My Name 11