บทความ

Say My Name 32

สิ้นคำพูดริมฝีปากของเด็กหนุ่มก็ถูกจู่โจมทันที เป็นครั้งแรกที่จองกุกรู้สึกไปไม่เป็นกับการจูบที่ดุดันแบบนี้ทั้งที่ปกติแล้วเขาไม่ยอมอีกคนด้วยซ้ำ แต่รสขมปร่าของเหล้าฝรั่งดีกรีแรงเมื่อเรียวลิ้นสัมผัสกันรวมกับกลิ่นที่คละคลุ้งในโพรงปากเริ่มทำให้เขารู้สึกเวียนหัวราวกับเป็นคนดื่มเข้าไปเอง ทั้งที่จริงๆแล้วเพียงแค่ถูกมอมเมาโดยคนโตกว่าเท่านั้น ไม่รู้ว่าตอนไหนที่ถูกหลอกล่อจนมาถึงเตียงกว้าง เมื่อแผ่นหลังสัมผัสกับฟูกข้อมือทั้งสองก็ถูกกดไว้ด้วยมือของร่างสูงทันที แรงกัดไม่เบานักที่ริมฝีปากล่างไม่ได้ทำให้รู้สึกเจ็บเท่าไรแถมยังเปิดโอกาสให้ได้พักหายใจบ้างก่อนจะถูกประกบจูบลงมาอีกครั้งอย่างจาบจ้วง จองกุกหอบหายใจเฮือกเมื่อซอกจินผละใบหน้าออก จมูกโด่งสูดกลิ่นกายตรงซอกคอขาวอย่างกระหายก่อนคนเด็กจะหลุดเสียงร้องเบาๆเพราะลำคอถูกงับด้วยฟันคมอย่างหมั่นเขี้ยว “ยูจองให้ฉีดน้ำหอมเหรอ?” ซอกจินถาม เด็กหนุ่มพยักหน้าเป็นคำตอบ “ให้ตายเถอะ... นายจะทำให้ฉันคลั่งไปถึงไหน” “อื้อ.. ปล่อยก่อนครับ” จองกุกท้วงเมื่อเริ่มรู้สึกเจ็บเพราะแรงกดที่ข้อมือก่อนจะเห็นสายตาดุดันที่มองมา “ปล่อย... นะครับ..” น้ำเสียงอ้อนๆ

Say My Name 29

ทันทีที่ประตูห้องปิดลงต่างคนต่างก็ถูกดึงดูดเข้าหากันอย่างรวดเร็วราวกับแม่เหล็กคนละขั้ว ริมฝีปากแนบชิดบดเบียดกันอย่างไม่ลดละตั้งแต่เข้ามาจนถึงเตียง เสื้อผ้าหลุดออกจากทีละชิ้นจนกระทั่งเนื้อตัวเปลือยเปล่า ไร้ซึ่งสิ่งขวางกั้นระหว่างร่างกายของคนทั้งสองในที่สุด มือของซอกจินสัมผัสไปทั่วเรือนร่างขาวเนียนที่เริ่มขึ้นสีอ่อนๆขณะที่ใบหน้ายังไม่ได้ผละออกจากกันตั้งแต่แผ่นหลังของร่างบางสัมผัสกับเตียง ท่อนขาเรียวพัวพันกับส่วนเดียวกันของเขา ส่วนแขนทั้งสองข้างโอบรอบลำคอพร้อมดึงรั้งให้ขยับเข้าไปใกล้มากขึ้นทั้งที่แทบจะไม่เหลือที่ว่างระหว่างกันแล้ว จองกุกหอบหายใจเพียงครู่เดียวแล้วประกบริมฝีปากเข้าหาคนด้านบนอีกครั้ง เรียวลิ้นเกี่ยวกระหวัดโต้ตอบอีกฝ่ายอย่างไม่ยอมอ่อนให้แม้แต่น้อย สิ่งที่พวกเขากำลังทำอยู่ตอนนี้เป็นสิ่งที่จองกุกยิ่งกว่าเต็มใจให้มันเกิดขึ้น เขายินดียิ่งกว่าครั้งไหนๆ เสียงใสฟังหวานหูร้องออกมาทุกครั้งที่ซอกจินสัมผัสถูกจุดอ่อนไหวทั้งภายในและภายนอกกาย ทั้งยังดังคลอไปตามจังหวะการขยับเข้าออกที่แนบแน่นและหนักหน่วง ร่างกายสอดประสานเป็นหนึ่งเช่นเดียวกับเรียวนิ้วข

Say My Name 22

ระยะห่างของใบหน้าทั้งสองลดลงจนไม่เหลือช่องว่าง ริมฝีปากอิ่มที่เป็นฝ่ายขยับเข้าหาก่อนขบเม้มกลีบปากบางอย่างนุ่มนวล แม้ในตอนแรกอีกฝ่ายจะดูเหมือนปฏิเสธแต่สุดท้ายก็ยอมตอบรับสัมผัสนั้นกลับเช่นกัน ซอกจินประคองท้ายทอยของเด็กหนุ่มเอาไว้แล้วเอียงใบหน้าให้ริมฝีปากแนบชิดกันมากขึ้น จมูกโด่งสัมผัสผ่านกันทุกครั้งที่ร่างสูงขยับบดเบียดปากนิ่มด้วยส่วนเดียวกัน ก่อนเรียวลิ้นจะแตะกันเบาๆเมื่อจองกุกเผยอปากหายใจแล้วเป็นโอกาสให้ซอกจินได้หยอกล้อกับโพรงปากอุ่น กล้ามเนื้ออ่อนนุ่มด้านในถูกชักจูงให้เกี่ยวกระหวัดกันกลับไป ซอกจินดึงมืออีกข้างของจองกุกที่เขายังจับเอาไว้เมื่อครู่ให้วางบนไหล่ ส่วนตัวเขาค่อยๆขยับเข้าไปใกล้พลางสัมผัสส่วนเว้าโค้งบนเรือนร่างของอีกคน ฝ่ามือที่เย็นกว่าอุณหภูมิน้ำทำให้จองกุกสะดุ้งเมื่อร่างกายถูกแตะต้อง แต่เขาก็ไม่สามารถหนีไปไหนได้เพราะถูกหลอกล่อเอาไว้ด้วยรสจูบหอมหวาน อันที่จริงแล้วเขากำลังติดกับมันอย่างจัง “อื้อ...” ตัวตนของเด็กหนุ่มถูกสัมผัสด้วยฝ่ามือใหญ่โดยไม่ทันระวังจนต้องร้องท้วง แค่เผลอครู่เดียวเขาก็ถูกควบคุมโดยร่างสูง ซอกจินผละออกเล็กน้อยแล้วมองจ้องเข้าไปในดวงตากลมใส

Say My Name 11

“ผมเป็นคนชอบรื้อของซะด้วยสิ...” พูดจบมือเล็กก็ล้วงลงไปในกระเป๋ากางเกงสแลคของคนบนร่างหยิบโทรศัพท์และบัตรเครดิตที่เพิ่งใช้ที่ร้านอาหารออกไปวางไว้ข้างหมอน ก่อนเลื่อนมือลงไปที่ขอบกางเกงแล้วล้วงเอาชายเสื้อเชิ้ตออกมาจนหมดก่อนจะขยับมาที่เข็มขัดแล้วค่อยๆปลดมันออก ซอกจินหัวเราะเบาๆเมื่อเข้าใจการกระทำของอีกคนแล้วหันมาสบตาขณะที่ปล่อยให้มืออีกฝ่ายได้ทำตามใจชอบ “สาบานกับฉันมั้ยว่านายไม่เคยนอนกับใครมาก่อน” “สาบานครับ” “แล้วที่ทำอยู่คืออะไร?” “ก็... ทำตามที่หาข้อมูลมาน่ะ” เมื่อจองกุกพูดจบซอกจินก็ประกบจูบริมฝีปากเล็กทันที กลีบปากบดเบียดดูดดึงกับอีกฝ่ายจนเกิดเสียงเช่นเดียวกับจองกุกที่จูบตอบอย่างไม่ยอมแพ้ มือหนาเริ่มอยู่ไม่สุขสอดเข้าลูบไล้เรือนร่างที่ยังมีเสื้อเชิ้ตตัวในใต้เสื้อสูทเนื้อดี สะกิดยอดอกของเด็กหนุ่มเพราะแรงอารมณ์ที่กำลังเพิ่มขึ้นผ่านเนื้อผ้าให้จองกุกได้หลุดครางทั้งที่ริมฝีปากยังเชื่อมต่อกัน ซอกจินจัดการถอดเสื้อสูทตัวนอกออกแล้วโยนมันไปไว้ที่พื้น ดึงเนคไทสีเดียวกันออกแล้วโยนไว้ที่เดียวกันก่อนปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตตัวในอย่างรวดเร็ว “ฮะ..” เมื่อกระดุมหล